วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

คำตอบอนุทินที่ 1 ค่ะ

1.ท่านคิดว่าทำไมมนุษย์เราต้องมีกฎหมายหากไม่มีจะเป็นอย่างไร             

           ตอบ หากไม่มีกฎหมายบ้านเมืองก็จะร้อนเป็นลุกไฟ หากไม่มีกฎหมายที่ชัดเจนเป็นข้อบังคับให้คนปฏิบัติตามกฎหมาย จะไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง มีการทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกาย สาเหตุมาจากความไม่พึงพอใจ มีการแก่งแย่ง การแก้แค้นซึ่งกันและกัน กฎหมายจึงจำเป็นต้องมีข้อบังคับใช้ที่ชัดเจนเพื่อมิให้คนกระทำความผิดและมีการลงโทษผู้กระทำความผิดเพื่อให้คนเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นคนดี

2.ท่านคิดว่าสังคมปัจจุบันจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีกฎหมายและจะเป็นอย่างไร

          ตอบ อยู่ไม่ได้หากไม่มีกฎหมายบ้านเมืองจะมีความไม่สงบสุข มีแต่เรื่องเดือดร้อน ไม่รู้จักจบจักสิ้นเราต้องมีกฎกติกาให้กับตัวเองและกฎกติกาในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ซึ่งกฎหมายจะช่วยให้คนมีระเบียบ เคารพกฎกติกาของบ้านเมืองในการอยู่ร่วมกัน ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นๆ

3.ท่านมีความรู้ความเข้าเกี่ยวกับกฎหมายในประเด็นต่อไปนี้               

          ตอบ . ความหมาย คาสั่งหรือข้อบังคับที่เกิดจากรัฎฐาธิปไตย์ จากคณะบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดของรัฐ เป็นข้อบังคับใช้กับคนทุกคนที่อยู่ในรัฐหรือประเทศนั้น ๆ จะต้องปฏิบัติตามและมีสภาพบังคับที่มีการกำหนดบทลงโทษ 

   ข. ลักษณะหรือองค์ประกอบของกฎหมาย                                                                                                             1. เป็นคาสั่งหรือข้อบังคับที่เกิดจากรัฎฐาธิปไตย์ที่องค์กรหรือคณะบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดอาทิ รัฐสภาฝ่ายนิติบัญญัติ หัวหน้าคณะปฏิวัติ กษัตริย์ในระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ สามารถใช้อำนาจบัญญัติกฎหมายได้ เช่น รัฐสภา ตราพระราชบัญญัติ                                                                                                 2. มีลักษณะเป็นคาสั่งข้อบังคับ อันมิใช่คาวิงวอน ประกาศ หรือแถลงการณ์ อาทิ ประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ คาแถลงการณ์ของคณะสงฆ์ ให้ถือเป็นแนวปฏิบัติมิใช่กฎหมาย สาหรับคาสั่งข้อบังคับที่เป็นกฎหมาย เช่น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.. 2542                                                                  3. ใช้บังคับกับคนทุกคนในรัฐอย่างเสมอภาค เพื่อให้ทุกคนเกรงกลัวและถือปฏิบัติสังคมจะสงบสุขได้ เช่น กฎหมายที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ ใช้บังคับกับผู้ที่มีเงินได้ แต่ไม่บังคับเด็กที่ยังไม่มีเงิน                              4. มีสภาพบังคับ ซึ่งบุคคลจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายโดยเฉพาะการกระทาและการงดเว้นการกระทาตามกฎหมายนั้น ๆ กำหนด หากฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามฝ่าฝืนอาจถูกลงโทษหรือไม่ก็ได้ และสภาพบังคับในทางอาญาคือ โทษที่บุคคลผู้ที่กระทาผิดจะต้องได้รับโทษ เช่น รอลงอาญา ปรับจาคุก กักขัง ริมทรัพย์                                                                                                                                                           ค. ที่มาของกฎหมาย                                                                                                                                            1. บทบัญญัติแห่งกฎหมาย เป็นกฎหมายลักษณ์อักษร เช่น กฎหมายประมวลรัษฎากร รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ เทศบัญญัติ ซึงกฎหมายดังกล่าว ผู้มีอำนาจแห่งรัฐหรือผู้ปกครองประเทศเป็นผู้ออกกฎหมาย                                                                                                                                                      2. จารีตประเพณี เป็นแบบอย่างที่ประชาชนนิยมปฏิบัติตามกันมานาน หากนาไปบัญญัติเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรแล้วย่อมมีสภาพไปเป็นกฎหมาย เช่น การชกมวยเป็นกีฬา หากชนตามกติกา                    3. ศาสนา เป็นข้อห้ามและข้อปฏิบัติที่ดีของทุก ๆ ศาสนาสอนให้เป็นคนดี เช่น ห้ามลักทรัพย์ ห้ามผิดลูกเมีย ห้ามทาร้ายผู้อื่น กฎหมายจึงได้บัญญัติตามหลักศาสนาและมีการลงโทษ                                          4. ความเห็นของนักนิติศาสตร์ เป็นการแสดงความคิดเห็นของว่าสมควรที่จะออกกฎหมายอย่างนั้น สมควรหรือไม่                                                                                                                                      . ประเภทของกฎหมาย                                                                                                                                        ก. กฎหมายภายใน                                                                                                                                      ข. กฎหมายภายนอก


4.ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ว่า ทำไมทุกประเทศจำเป็นต้องมีกฎหมาย จงอธิบาย                                              

      ตอบ ทุกประเทศจำเป็นต้องมีกฎหมายบ้านกฎหมายเมือง เพื่อเป็นการสร้างกฎระเบียบให้ประชาชนมีระเบียบวินัยการในการอยู่ร่วมกัน มีความประพฤติดีไม่ทำผิดกฎหมาย หากทำผิดกฎหมายก็ต้องมีข้อบังคับในการลงโทษ ถ้าไม่มีกฎหมายบ้านเมืองจะอยู่ไม่เป็นสุขมีแต่ความเดือดร้อนไม่มีวันจบวันสิ้นมีแต่ปัญหาและไม่มีความสงบสุข

5. สภาพบังคับในทางกฎหมายท่านมีความเข้าใจอย่างไร จงอธิบาย        

       ตอบ สภาพบังคับในทางกฎหมายเป็นหลักของกฎหมายอาญา และกฎหมายแพ่ง 1. กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18 วรรคแรก บัญญัติโทษทางอาญา เช่น การประหารชีวิต จาคุก กักขัง ปรับ หรือริบทรัพย์สิน สภาพบังคับทางอาญาจึงเป็นโทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ใช้ลงโทษกับผู้กระทาผิดทางอาญา    2. กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง ได้บัญญัติถึงสภาพบังคับลักษณะต่าง ๆ กันไว้สำหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่กระทำตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่น การกำหนดให้เป็น โมฆะกรรมหรือโมฆียกรรม การบังคับให้ชาระหนี้


6. สภาพบังคับกฎหมายในอาญาและทางแพ่ง มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
              ตอบ มีความแตกต่าง กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญาจึงเป็นโทษอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง ใช้ลงโทษกับผู้กระทำผิดทางอาญา  ส่วนกฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง สำหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่กระทำตามที่กฎหมายบัญญัติไว้  แต่สำหรับสภาพบังคับทั้งทางอาญาและทางแพ่งควบคู่กันไปก็ได้ เช่น กฎหมายที่ดินพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค และพระราชบัญญัติการล้มละลาย อีกทั้งยังมีสภาพบังคับทางปกครองอีก ตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.. 2539

7. ระบบกฎหมายเป็นอย่างไร จงอธิบาย                                                

         ตอบ 1. ระบบซีวิลลอร์ (Civil Law System) หรือระบบลายลักษณ์อักษรเป็นกฎหมายลายลักษณ์อักษรที่มีความสำคัญกว่าอย่างอื่น คาพิพากษาของศาลไม่ใช่ที่มาของกฎหมาย แต่เป็นบรรทัดฐานแบบอย่างของการตีความกฎหมายเท่านั้น เริ่มต้นจากตัวบทกฎหมายเป็นสำคัญ จะถือเอาคาพิพากษาศาลหรือความคิดเห็นของ นักกฎหมายเป็นหลักไม่ได้ ยังถือว่า กฎหมายเอกชนและกฎหมายมหาชนเป็นคนละส่วนกัน                                                                                                                                                                 2. ระบบคอมมอนลอว์ เป็นการพัฒนามาจากกฎหมายที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษร นาเอาจารีตประเพณีและคาพิพากษา ซึ่งเป็นบรรทัดฐานของศาลสมัยเก่ามาใช้ จนกระทั่งเป็นระบบกฎหมายที่มีความสม            


  8.ประเภทของกฎหมายมีหลักการแบ่งอย่างไรบ้าง มีกี่ประเภท แต่ละประเภทประกอบด้วยอะไรบ้าง ยกตัวอย่างอธิบาย                                                                                                             

   ตอบ       2 ประเภท
                การแบ่งประเภทกฎหมายที่ใช้ในประเทศไทย ขึ้นอยู่ใช้หลักใดจะขอกล่าวโดยทั่ว ๆไปดังนี้. กฎหมายภายใน มีดังนี้
      1. กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรและไม่เป็นลายลักษณ์อักษร
             1.1 กฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษร                1.2 กฎหมายที่เป็นไม่เป็นลายลักษณ์อักษร     

  2. กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา และกฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่ง
            2.1 กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา  18 วรรคแรก บัญญัติโทษทางอาญา เช่น การประหารชีวิต จำคุก  กักขัง ปรับ หรือริบทรัพย์สิน                                                                

           2.2 กฎหมายที่มีสภาพบังคับทางแพ่งได้บัญญัติถึงสภาพบังคับลักษณะต่างๆกันไว้สำหรับลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนหรือไม่กระทาตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ เช่นการกำหนดให้เป็นโมฆะกรรมหรือโมฆียกรรม                        

3. กฎหมายสารบัญญัติ และกฎหมายวิธีบัญญัติ                                  

        3.1 กฎหมายสารบัญญัติ แบ่งโดยคำนึงถึงบทบาทของกฎหมายเป็นหลัก กล่าวถึงการกระทาที่กฎหมายกำหนดเป็นองค์ประกอบแห่งความผิด                                                                                                          

         3.2 กฎหมายวิธีบัญญัติ กล่าวถึง วิธีการและขั้นตอนในการใช้กฎหมายบังคับ เช่นประมวลกฎหมายวิธี

พิจารณาความอาญา                                                                                                                                     4. กฎหมายมหาชน และกฎหมายเอกชน                                                  

          4.1 กฎหมายมหาชน เป็นกฎหมายที่กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน รัฐเป็นผู้มีอำนาจบังคับให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมาย  เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยแก่สังคม เป็นเครื่องมือในการควบคุม                                                                                            

       ขกฎหมายภายนอก มีดังนี้                                                                         

    1. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีเมือง เป็นกฎหมายที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างรัฐต่อรัฐในการที่จะต้องปฏิบัติต่อกันและกัน ในฐานะที่รัฐเป็นนิติบุคคลในกฎหมายระหว่างประเทศซึ่งมีเกณฑ์กาหน                                                                                                               

    2. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีบุคคล เป็นข้อบังคับที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลในรัฐต่างรัฐ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการขัดแย้งแห่งกฎหมาย เป็นการบังคับความสัมพันธ์ของบุคคลที่อยู่ในประเทศไทยกับบุคค]ที่อยู่ในรัฐอื่น                                                                                                   3. กฎหมายระหว่างประเทศแผนกคดีอาญา เป็นข้อบังคับที่ประเmศหนึ่งหรือรัฐหนึ่งตกลงยอมรับให้ศาลส่วนอาญาของอีกรัฐหนึ่งมีอำนาจในการพิจาณาลงโทษอาญาแก่บุคคลที่ได้กระทาผิดนอกประเทศนั้นได้ เช่น สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน 


9. ท่านเข้าใจถึงคาว่าศักดิ์ของกฎหมายคืออะไร มีการแบ่งอย่างไร
                ตอบ การจัดลำดับแห่งค่าบังคับของกฎหมายหรืออาจกล่าวได้ว่าอาศัยอำนาจขององค์กรที่ใช้อำจากองค์กรที่แตกต่างกันจากประเด็นดังกล่าวพอที่จะกล่าวต่อไปได้อีกว่า ในการจัดลาดับมีการจัดอย่างไร ซึ่งจะต้องอาศัยหลักว่า กฎหมายหรือบทบัญญัติใดของกฎหมายที่อยู่ในลาดับที่ต่ำกว่า จะขัดหรือแย้งกับกฎหมายในลาดับที่สูงกว่าไม่ได้และเราจะพิจารณาอย่างไร โดยพิจารณาจากองค์กรที่มีอำนาจในการออกกฎหมาย โดยใช้เหตุผล               

 1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

2. พระราชบัญญัติและประมวลกฎหมาย

3. พระราชกำหนด

4. ประกาศพระบรมราชโองการให้ใช้บังคับดังเช่นพระราชบัญญัติ

5. พระราชกฤษฎีกา

6. กฎกระทรวง

7. ข้อบัญญัติจังหวัด

8. เทศบัญญัติ 

9. ข้อบังคับองค์การบริหารส่วนตำบล

 10. เหตุการณ์ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 มีเหตุการณ์ชุมนุมของประชาชน ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า และประชาชนได้ประกาศว่าจะมีการประชุมอย่างสงบ แต่ปรากฏว่า รัฐบาลประกาศเป็นเขตพื้นที่ห้ามชุมนุม และขัดขว้างไม่ให้ประชาชนชุมนุมอย่างสงบ ลงมือทำร้ายร่างกายประชาชน ในฐานะท่านเรียนวิชานี้ท่านจะอธิบายบอกเหตุผลว่า รัฐบาลกระทำผิดหรือถูก                                                 

     ตอบ กระทำผิด เพราะการชุมนุมอย่างสงบของผู้ชุมนมไม่ได้ทำร้าย เราควรให้ความเคารพในสิทธิของเข้า รัฐบาลไม่ควรลงมือทำร้ายประชาชนที่ชุมนมอย่างสงบ เพราะเข้ามาด้วยใจบริสุทธิ์ไม่ได้มาทำร้ายใคร ควรหาแนวทางแก้ไขไม่ใช่ทำร้ายประชาชน 

11. ท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ คำว่า กฎหมายการศึกษาอย่างไร จงอธิบาย
         ตอบ  บทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับกฎหรือคาสั่งหรือข้อบังคับของรัฐทีเกี่ยวข้องกับการศึกษาที่สถาบันหน่วยงานผู้มีอำนาจ ได้ตราขึ้นและมีผลบังคับใช้ กฎหมายการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาคน ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษา เสมือนวิศวกรในการสร้างคนให้เป็นไปตามความต้องการของคนในประเทศ และนาไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สุขต่อเยาวชนและประเทศชาติ
  

12. ในฐานะที่นักศึกษาจะต้องเรียนวิชานี้ ถ้าเราไม่ศึกษากฎหมายการศึกษาท่านคิดว่า เมื่อท่านไปประกอบอาชีพครู จะมีผลกระทบต่อท่านอย่างไรบ้างประกอบอาชีพครู จะมีผลกระทบต่อท่านอย่างไรบ้าง
       ตอบ ถ้าเราไม่ศึกษากฎหมายการศึกษาท่านคิดว่า เราจะไม่กฎระเบียบในการศึกษาเราจะไม่ได้ศึกษาตามข้อบัญญัติ ทำให้เด็กไม่ได้รับการศึกษาตามข้อบังคับ ทำให้เด็กไม่มีความรู้ในการประกอบอาชีพในอนาคตทำให้เด็กขาดโอกาสการเรียนรู้ เมื่อเราไปประกอบอาชีพครูจะมีผลกระทบในเรื่องของการใช้ พ.ร.บ. ในการศึกษาไม่มีระบบในการเรียนการสอนว่าจะใช้หลักสูตรใดในการสอน ทำให้นักเรียนไม่ได้รับความรู้อย่างเต็มที่หากไม่มีกฎหมายการศึกษา

                                                                                          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น